ในเชิงสัญลักษณ์หิ้งพระ คือ เครื่องเตือนใจในการกระทำความดี ส่วนแก่นแท้ในการอันเชิญท่านเข้าบ้านก็เปรียบดั่งพ่อแม่คนหนึ่งที่มาคอยปกป้องคุ้มครองลูกหลาน ซึ่งวัตถุประสงค์ของหิ้งพระมีไว้เพื่อวางพระพุทธรูป สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อให้เกิดความสิริมงคลในชีวิต เราจึงจำเป็นต้องจัดทิศทางการนอนให้ถูกหลักฮวงจุ้ย เพื่อไม่ให้เกิดพลังลบที่ไปลดทอนพลังบวกที่อยู่บริเวณหิ้งพระ อีกทั้งช่วยสะสมพลังบวกภายในบ้านให้เกิดขึ้นทุกวัน สร้างความมั่งคั่ง ร่ำรวย เจริญรุ่งเรืองตามมา
ไม่ว่าจะเป็นพระพุทธรูป สิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ที่เราเคารพนับถือ เมื่อเราอันเชิญท่านเข้ามาในบ้านแล้ว เราต้องเคารพและศรัทธาท่านอย่างเต็มที่ เพื่อให้ท่านช่วยคุ้มครองเรา การวางหิ้งพระที่เหมาะสม จึงควรห่างจากพื้นอย่างน้อย 5 ฟุต เพื่อให้หิ้งพระมีระดับที่สูงกว่าเตียงนอน
โดยเฉพาะห้องนอนของสามีภรรยา จะส่งผลให้ความศักดิ์สิทธิ์เสื่อมลง แต่สำหรับคนโสดสามารถจัดวางหิ้งพระได้ แต่ควรจะมีฉากกั้นและไม่ควรวางหิ้งพระปลายเตียง เพราะเท้าจะชี้ไปที่พระพุทธรูป ซึ่งถือเป็นการลบหลู่ท่าน หรือบางครั้งเราอาจมีกิจกรรมหรือกิริยาที่ไม่เหมาะสม ทำให้เกิดพลังงานไม่ดีที่ไปกระทบสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้
หิ้งพระควรหันไปทางทิศตะวันออกหรือทิศเหนือ ซึ่งหลักฮวงจุ้ยถือว่าเป็นทิศมงคลในการจัดวางหิ้งพระ หรือหันหน้าไปทางหน้าบ้าน จะทำให้เกิดความมงคลภายในบ้าน ช่วยให้เกิดพลังผลักดันที่ทำให้ประสบความสำเร็จอย่างง่ายดาย
หรือการจัดวางหิ้งพระเหนือหัวเตียง รวมทั้งหิ้งพระที่อยู่ติดกับห้องนอน ซึ่งใช้ผนังหรือกำแพงเดียวกัน ส่งผลให้เตียงได้รับพลังจากธาตุไฟ ทำให้คนปวดหัวง่าย, นอนหลับๆ ตื่น, นอนสะดุ้ง หรือนอนไม่ค่อยหลับ
หรือใต้เพดานที่มีลักษณะกดทับ รวมทั้งพระพักตร์ของพระพุทธรูปมองไปเบื้องหน้าต้องไม่ตรงช่องลม ประตู หน้าต่าง เพราะประตูหน้าต่าง เป็นจุดที่ไม่มั่นคง ทำให้คนในบ้านเกิดความสับสนวุ่นวายได้
การจัดวางหิ้งพระให้ถูกต้อง เป็นเรื่องที่ดีที่ทำแล้วย่อมเกิดความสิริมงคลเกิดขึ้นกับชีวิตแน่นอน หากเราดูแลความสะอาดหิ้งพระสม่ำเสมอ ชีวิตย่อมเกิดความปิติ ทำให้สุขภาพกายและใจดีอีกด้วยครับ