ห้องที่มีฝ้าเพดานที่เฉียงลงมา ส่วนใหญ่จะเป็นห้องที่อยู่ขอบของหลังคา หรือเป็นห้องใต้หลังคา ซึ่งฝ้าเพดานที่เฉียงกดทับลงมาแบบนี้ ทางฮวงจุ้ยเชื่อว่าจะทำให้พลังชี่ (Chi) ไหลเวียนไม่สะดวก คล้ายๆ กับกรณีเตียงนอนตรงกับคาน แล้วคานกดทับกับตำแหน่งของเตียงนอน ซึ่งลักษณะเตียงนอนแบบนี้ จะทำให้คนที่นอนอยู่ตำแหน่งดังกล่าวไม่สบายบ่อยครั้ง เกิดความวิตกกังวล หงุดหงิด มีปัญหาด้านสุขภาพ ซึ่งในระยะยาวอาจส่งผลต่อสุขภาพจิต รวมทั้งระบบประสาทและสมองได้อีกด้วย
1.ย้ายเตียงออกจากตำแหน่งนั้น
2.เพิ่มความสว่างของห้อง
3.ปรับฝ้าเพดานให้ราบเรียบเสมอกัน
เพื่อลดแรงกดทับของฝ้าเพดาน หากเป็นไปได้ลองย้ายไปนอนห้องอื่น หรือตำแหน่งอื่นแทน ทำให้พลังงานไม่ดีไม่สามารถส่งผลร้ายกับเราได้ อีกทั้งช่วยให้เราหลับลึกขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากพลังงานจากฝ้าเพดานเฉลียงมากดทับร่างกาย เวลานอนส่งผลให้เรารู้สึกเหมือนมีอะไรมากดทับอยู่ตลอดเวลา ส่งผลให้สะดุ้งตื่นบ่อยครั้ง ทำให้เกิดการเจ็บป่วยง่ายอีกด้วย
ตามหลักฮวงจุ้ยการกดทับของฝ้าเพดานเหมือนกับพลังงานหยินเข้ามาเยอะจนเกินไป ทำให้ห้องนอนเกิดความไม่สมดุล ส่งผลเสียต่อผู้นอนโดยตรง วิธีการแก้ไข คือ การเพิ่มพลังงานหยางเข้าไป เพื่อปรับให้ห้องนั้นสมดุล นั่นคือการเพิ่มไฟ หรือ การเพิ่มแสงสว่างให้ห้องนั้น ซึ่งจะช่วยให้เราได้บรรยากาศของความอบอุ่น และความปลอดภัยเพิ่มขึ้นอีกด้วยครับ
ตามหลักฮวงจุ้ยการกดทับของฝ้าเพดานเหมือนกับพลังงานหยินเข้ามาเยอะจนเกินไป ทำให้ห้องนอนเกิดความไม่สมดุล ส่งผลเสียต่อผู้นอนโดยตรง วิธีการแก้ไข คือ การเพิ่มพลังงานหยางเข้าไป เพื่อปรับให้ห้องนั้นสมดุล นั่นคือการเพิ่มไฟ หรือ การเพิ่มแสงสว่างให้ห้องนั้น ซึ่งจะช่วยให้เราได้บรรยากาศของความอบอุ่น และความปลอดภัยเพิ่มขึ้นอีกด้วยครับ
จะเห็นได้ว่าการปรับฮวงจุ้ยฝ้าเพดานเฉียงลงมากดทับเตียงนอน เป็นเรื่องไม่ยากเลย เพราะนอกจากความเชื่อแล้ว ในด้านวิทยาศาสตร์ก็ส่งผลให้ผู้ที่นอนรู้สึกโดนกดทับอยู่ตลอดเวลา ทำให้ไม่สบายตา เกิดความรู้สึกอึดอัดจนกลายเป็นความเครียดสะสมได้นั่นเอง ใครไม่อยากมีปัญหาสุขภาพ จึงเหมาะกับการปรับเปลี่ยนตามหลักฮวงจุ้ย เพื่อความสะดวกสบายขึ้นนั่นเอง
ซินแสโอรส